ฝ นตกหนักทุกทีสิน่าเมื่อถึงเวลาเลิกงาน บางทีก็ตกหนักจนน้ำท่วม เราก็เลี่ยงไม่ได้เลยต้องขับลุยน้ำท่วม แต่ใจก็ตุ้มๆ ต่อมๆ รถจะดับไหมนะ เครื่องยนต์จะเสียหายไหมนะ วันนี้เรามีวิธีขับรถลุยน้ำท่วมยังไงให้ “รอด” มาฝากกัน
1. ปิดแอร์ และเปิดกระจกเพื่อระบายอากาศ สิ่งแรกที่ต้องทำเมื่อขับรถลุยน้ำก็คือปิดแอร์ เพราะหากพัดลมแอร์ยังทำงานอยู่ใบพัดอาจพัดน้ำเข้าระบบเครื่องยนต์จนเสียหายได้ หรืออาจพัดขยะเข้ามาในเครื่องยนต์ได้
2. ลดความเร็ว ถึงเวลาที่ต้องขับรถอย่างใจเย็นแล้วล่ะ เพราะการที่ใช้ความเร็ว เร่งเครื่องให้รอบสูงๆ จะทำให้รถมีความร้อนสูงขึ้น ใบพัดระบายความร้อนก็จะทำงาน และพัดน้ำเข้าสู่ตัวเครื่องยนต์ได้ ฉะนั้นควรขับรถ ใช้เกียร์ต่ำ ให้ความเร็วสม่ำเสมอ และไม่เกิน 1500 รอบ/นาที นะ
3. เว้นระยะห่างจากคันข้างหน้าไว้
อย่าลืมว่าระบบเบรกนั้นตอนนี้แช่น้ำอยู่ ฉะนั้นประสิทธิภาพการทำงานของเบรกนั้นต่ำลง เพื่อป้องกันเหตุฉุกเฉินก็รักษาระยะห่างไว้ดีกว่า และพยายามเบรกเป็นช่วงๆ เพื่อให้ผ้าเบรกแห้งด้วยล่ะ
4. คอยสังเกตระดับน้ำ ระหว่างขับไม่ใช่คิดถึงแต่จุดหมาย แต่ต้องคอยดูระดับน้ำด้วยนะสำหรับรถยนต์ ไม่ควรเกิน 30 เซนติเมตร ซึ่งหากเกิน 30 เซนติเมตร ซึ่งเป็นระดับความสูงที่สามารถก่อให้เกิดความเสียหายต่อเครื่องยนต์ของคุณได้ ซึ่งสามารถสังเกตได้จากฟุตบาทนั่นเอง เพราะปรกติแล้วฟุตบาทจะมีความสูง 15 เซนติเมตร หากมองข้างทางแล้วไม่เห็นฟุตบาทก็ไม่ควรลุยต่อ
5. เมื่อถึงจุดหมาย ไม่ควรดับเครื่องยนต์ทันที
เมื่อลุยน้ำท่วมมาจนถึงที่หมาย อย่ารีบดับเครื่องในทันทีให้วอร์มเครื่องยนต์ต่ออีกหน่อย เพราะอาจมีน้ำค้างอยู่ในหม้อพักท่อไอเสีย หรือส่วนต่างๆ ของเครื่องยนต์ สตาร์ททิ้งไว้ก่อนเพื่อค่อยๆ ให้น้ำระเหยออก เครื่องยนต์จะได้ไม่เสียหาย แต่หากไม่ได้รีบไปไหน ก็ไม่ควรขับรถลุยน้ำอยู่ดี เพื่อรักษารถอันเป็นที่รักให้อยู่กับเรานานๆ โดยเฉพาะรถมือสอง เราก็ควรทะนุถนอมรถให้อยู่กับเรานานๆ